23.6.09

ศึกคอร์ทหญ้า ณ กรุงลอนดอน 2009 กับ Federer


เปิดฉากมาได้ 1 วันกว่าๆแล้วนะคะ กับการแข่งขันสุดยอดเทนนิส ประจำปี Wimbeldon 2009 ณ กรุงลอนดอน ที่แฟนๆเทนนิสที่อังกฤษและทั่วโลกตั้งตารอ

งานนี้ขอจองเชียร์ Roger Federer ขวัญใจ ผู้มีลีลาหวดแบบพลิ้วไหว ปีที่แล้วนั่งเชียร์ก็อกหักไปแล้วค่ะ เพราะน้อง Fed แพ้ Nadal นักหวดเลือดร้อนชาวสเปนไปแบบนัดประวัติศาสตร์จริงๆ

คราวนี้หนทางคงโล่งขึ้นเยอะ เพราะ Nadal ถอนตัวไม่ลงเพราะร่างกายยังไม่ฟิตกับงานนี้

Federer ได้เป็นนักเทนนิสเบอร์หนึ่งของโลกติดต่อกันนานถึง 237 สัปดาห์ หรือสี่ปีกว่าๆ และได้เป็นแชมป์หลายรายการติดกัน รวมทั้งแชมป์วิมเบิลดันห้าสมัยติดกัน ไม่ได้หวดเทนนิสฉมังอย่างเดียวนะคะ พูดเก่งคล่องแคล่วถึงห้าภาษา แถมมีลีลาตอบคำถามกวนนักข่าวไม่น้อย

นัดล่าสุดกับการลงแข่งเมื่อวานนี้ที่ Centre Court หลังจากเอาชนะได้แล้ว ระหว่างแถลงข่าวผู้สื่อข่าวคนหนึ่งใจกล้าถามว่า “You do so many interviews in so many languages and the one thing you haven’t told us is when the baby is due.” เฟดเดอเรอร์สวนตอบทันควันว่า “I am not going to tell you,” จากนั้นก็หัวเราะ แล้วพูดกับนักข่าวต่อว่า “and now we must move on to the other languages, yes.”

ลูกล่อลูกชนไม่เบาเลย แล้วอย่างนี้เมื่อไรนักข่าวอังกฤษจะได้รู้ว่ากำหนดคลอดลูกของคุณ Federer คือเมื่อไรละเนี่ย

…รอให้พูดภาษาไทยได้บ้างเถ้อออออออ……..



16.6.09

อังกฤษ "Go Digital"



ช่วงที่ทั้งโลกกำลังง่วนอยู่กับการรับมือผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และล่าสุดที่อังกฤษมีครูฝึกจากโรงเรียนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์ และคนขายร้านเสื้อผ้าชื่อดัง Top Shop ติดื่เชื้อไปแล้ว ก็มีอีกข่าวออกมาจากสำนักนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ เป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเรื่อง licence fee หรือค่าธรรมเนียมเพื่อรับชมรายการของบีบีซี และแน่นอนเป็นรายได้หลักของบีบีซีค่ะ

ตอนนี้นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ กำลังรอดูรายงาน “Digital Britain Report” ที่จะแนะนำวิธีการปรับตัวของทั้งบีบีซี และ แนวทางช่วยเหลือ Channel 4 หรือ ช่อง 4 ของอังกฤษ ให้รับมือกับการใช้อินเตอร์เนตที่กำลังขยายตัวอย่างหนัก

พอคนใช้อินเตอร์เนตมากๆแล้วส่งผลกับการรับชมทีวีค่ะ เพราะแหล่งรายได้หลักของบีบีซีก็จะตกลงไปด้วย แล้วช่อง 4 นี่ก็เป็นสถานีสาธารณะเช่นกัน แต่ได้รับอนุญาตให้มีโฆษณาได้ โดยเจ้าของก็คือมหาชน ด้านหนึ่งช่อง 4 ได้เงินสนับสนุนจากรัฐและอีกด้านหนึ่งก็โฆษณาได้ แต่ก็มีเงื่อนไขว่าต้องผลิตรายการเพื่อสะท้อนความหลากหลายในสังคมอังกฤษด้วย

บราวน์ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ The Times วันนี้เลยค่ะว่า อังกฤษจะต้องก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน โดยจะจัดหาระบบอินเตอร์เนตแบบ broadband ให้กับทุกๆครัวเรือนภายใน ค.ศ. 2012

แล้วเกี่ยวข้องกับบีบีซีและ channel 4 อย่างไร รายงานที่ว่าน่าจะแนะนำว่า ต้องแบ่งรายได้จาก licence fee ให้กับ channel 4 ด้วย เพื่อประคองทีวีสาธารณะให้อยู่รอดทั้งสองสถานี โดยไม่ใช้สองมาตรฐาน

นอกจากนั้นรายงานจะต้องมีคำแนะนำด้วยว่าจะจัดการกับคนที่ลักลอบแบ่งปันข้อมูลดิจิตอลกันอย่างไร และต่อไปจะมีกลไกคิดค่าบริการกันขนาดไหน แล้ว broadband ที่ให้บริการไปตามชุมชนต่างๆในต่างจังหวัดจะมีประสิทธิภาพสำหรับแต่ละครัวเรือนขนาดไหน

เป็นโครงการใหญ่ค่ะ ถ้าสำเร็จจริงๆ ต่อไปคนอังกฤษ โดยเฉพาะผู้สูงวัยก็จะอาจจะสมัครใจแบบแกมถูกบังคับให้กลายเป็น Netizens มากขึ้น อาจจะถูกใจผู้สูงวัยจำนวนมากก็ได้และเป็นการเตรียมการเพื่ออนาคต สำหรับคนรุ่นต่อๆไปในอังกฤษ ที่จะต้อง Go Digital กันมากขึ้น

ป.ล. อ่านทุกคอมเม้นต์ที่เข้ามาแล้วด้วยความสนุกสนานค่ะ ขอบคุณมากๆๆๆๆค่ะ ที่ช่วยกันติดตาม มีประเด็นอะไร หรือ อยากให้ติดตามเรื่องอะไร ช่วยบอกต่อๆมาทางนี้ด้วยค่ะ



15.6.09

โอกาสมาพร้อมๆกับความเสี่ยง

โลกของผู้สื่อข่าว ตอนนี้เต็มไปด้วยโอกาสที่เปิดรออยู่มากมาย เมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ “เอื้อ” ต่อการรายงานมากขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ กล้องวีดีโอ บล๊อค อินเตอร์เนต ผู้สื่อข่าวแต่ละคนทำงานกันแบบครบวงจรได้ในคนคนเดียวมากขึ้นนะคะ โดยเฉพาะนักข่าวทีวี

แต่โอกาสที่เปิดมากขึ้นก็อาจจะมาพร้อมกับความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน เพราะเมื่อมีพื้นที่ให้ทำข่าวแบบลุยเดี่ยว และ เข้าไปในพื้นที่ที่ต้องห้ามได้มากขึ้น ความปลอดภัยหรือหลักประกันอาจจะลดน้อยลง

อย่างกรณีของผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันสองคน ลอร่า หลิง และ ยูน่า ลี ตอนนี้ถูกกักกันอยู่ที่เกาหลีเหนือมาเข้าเดือนที่สามแล้ว สำหรับประเทศต้องห้ามอย่างเกาหลีเหนือ แค่เข้าไปได้นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายแล้วนะคะ บทวิเคราะห์ของ New York Times ระบุว่า ผู้สื่อข่าวทั้งสองไม่ได้ทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์ใหญ่ๆ หรือหนังสือพิมพ์ชั้นนำ แต่ทำงานให้กับ Current TV ซึ่งเป็นช่องที่ออกอากาศในรูปแบบผู้สื่อข่าวอิสระนำเสนอเรื่องราวผ่าน เวปไซต์ยอดฮิต YouTube

รายงานระบุว่าผู้สื่อข่าวทั้งสองกำลังรายงานเรื่องผู้อพยพเกาหลีเหนือ แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณพรมแดนไปเจอเข้าก็เลยถูกสั่งห้าม สัปดาห์ที่แล้วผู้สื่อข่าวทั้งสองถูกสั่งจำคุก 12 ปี ตอนนี้น่าจะมีแต่หนทางทางการทูตที่จะช่วยเธอทั้งสองได้ค่ะ

ด้านหนึ่งมีรายงานว่าทาง Current TV ก็กำลังหาทางช่วยผู้สื่อข่าวทั้งสอง แต่ก็ไม่อยากให้เป็นข่าวมากเพราะเรื่องนี้ และอ่อนไหว และเกรงว่าทั้งสองจะยิ่งเดือดร้อน

ผู้สือข่าวทั้งสองไม่ธรรมดานะคะ หลิง เป็นรองหัวหน้าในหน่วยงานของเธอที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วจากรายงานสืบสวนสอบสวนเรื่อง เหตุรุนแรงในรัสเซียยุคนาซีใหม่ ทางคุณลี เป็นบรรณาธิการและมีประสบการณ์ในการทำภาพยนต์และทีวีมาก่อนด้วย เหตุมาเกิดเมื่อทั้งสองลงพื้นที่ทำงานโดยที่ไม่มีองค์กรสื่อสนับสนุนอยู่ ตรงนี้ต่างจากเวลาที่ผู้สื่อข่าวบีบีซี อย่าง Alan Johnston เคยได้รับความช่วยเหลือตอนที่ถูกลักพาตัว ที่ฉนวนกาซ่าเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นบีบีซี ทั้งองค์กรร่วมกันทำโครงการรณรงค์ และ เรียกร้องผ่านสื่อต่างๆพร้อมๆกัน่ จนในที่สุดจอห์นสตันก็ได้รับการปล่อยตัวค่ะ

และก่อนหน้านี้ไม่นานฟรีลานซ์อเมริกันเชื้อสายอิหร่าน Roxana Saberi ก็เพิ่งจะได้รับการปล่อยตัว หลังจากเป็นข่าวไปทั่วโลก และช่วยกดดันรัฐบาลอิหร่านให้ปล่อยตัวเธอจากที่ตอนแรกตัดสินจำคุกนานหลายปีในข้อหาเป็นสายลับให้กับทางการสหรัฐ

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำแบบนี้คงหยุดผู้สื่อข่าวไม่ให้ทำงานแบบเสี่ยงๆไม่ได้ค่ะ ในทางตรงกันข้ามน่าจะยิ่งเป็นเรื่องท้าทายให้ทำงานกันอย่างแข็งขันมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงจะลืมนึกถึงความปลอดภัยของตนไม่ได้โดยเฉพาะการรายงานในสถานการณ์ขัดแย้งและในพื้นที่ที่เสี่ยงมากกว่าปกติค่ะ

7.6.09

นักศึกษาหญิง แซง นักศึกษาชาย



ช่วงนี้มีแต่ข่าวเครียดๆนะคะ โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวอย่างคนตกงานที่กำลังเป็นปัญหากันไม่เว้นแต่ละวัน

ไปเห็นรายงานของสำนักข่าวบีบีซี แล้วเห็นว่าน่าสนใจ แต่จะว่าไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่นักนะคะ ล่าสุดผลสำรวจของสถาบันการศึกษาระดับสูง (Higher Education) ของอังกฤษ พบว่าจำนวนนักศึกษาที่เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย มีจำนวนนักศึกษาหญิงสูงกว่านักศึกษาชาย ในเกือบทุกสาขาวิชาค่ะ และแถมยังจะเรียนได้ระดับดีกว่าเพื่อนผู้ชายด้วย

แต่คุณบาห์แรม เบคห์ราด์เนีย บอกว่าผลความต่างเรื่องนี้อาจจะยังไม่ค่อยแน่ชัดเท่าไรนะคะ เพราะในช่วง สองสามปีที่ผ่านมา จำนวนักศึกษาหญิงก็สูงกว่าผู้ชายมาตลอด แต่นักศึกษาชายอาจจะได้เข้าเรียนในคณะที่เป็นหน้าเป็นตามากกว่า แต่ปรากฎว่าผลการศึกษาล่าสุดพบว่าไม่ใช่อย่างนั้น เพราะนักศึกษาผู้หญิงก็ได้เรียนในคณะดังๆกันมาก และปริมาณมากกว่านักศึกษาชายในเกือบทุกมหาวิทยาลัย

ที่ปริมาณพอๆกัน เห็นที่จะเป็นมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และ เคมบริดจ์

และผู้ชายก็ยังครองอยู่ในคณะคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเทคโนโลยี

ตรงนี้น่าจะจริงค่ะ อย่างน้อยก็ที่ LSE ที่ดิฉันเรียน เห็น Gender Gap ชัดเจนจากคณะที่เรียน คณะ Gender Studies ผู้หญิงเรียนกันเกือบ 100 เปอร์เซนต์ค่ะ แต่เพื่อนผู้ชายก็มีนะคะ แต่มักจะเป็นกลุ่มเกย์เกือบหมด ขณะที่ห้องข้างๆที่เป็นคณะคณิตศาสตร์ นักศึกษาปริญญาเอก เป็นผู้ชายทั้งคณะ เป็นความต่างเรื่อง gender กับคณะที่เรียนอย่างชัดเจนค่ะ

จะว่าไปเรื่องปริมาณก็คงจะบ่งชี้ได้ระดับหนึ่งว่านักศึกษาหญิงขยันกันมากขึ้น และประตูทางการศึกษาเปิดโอกาสให้นักเรียนผู้หญิงมากกว่าเมื่อก่อน โดยเฉพาะในคณะที่เมื่อก่อนไม่ค่อยมีผู้หญิงเรียนกันเท่าไร อย่าง วิศวกรรมศาสตร์ หรือ สังคมวิทยา แต่ตอนนี้ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เห็นนักศึกษาหญิงกันจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

ผลสำรวจที่ออกมานี้พบว่านักศึกษาหญิงมักจะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งและสองด้วยนะคะ ส่วนอันดับสามเป็นของนักศึกษาชาย

แข่งกันตอนเรียนก็ยังไม่พอค่ะ ตัววัดที่แท้จริงต้องไปดูตลาดแรงงานที่โดยมากผู้ชายอาจจะยังครองตำแหน่งสูงๆมากกว่าผู้หญิงอยู่ แต่ถ้าดัชนีทางการศึกษาเป็นแบบนี้แนวโน้มต่อไปก็ไม่แน่เหมือนกันนะคะ

1.6.09

รมว คมนาคม ยืนยันเรื่องเช่ารถเมล์ เข้าครม พุธนี้

ยังเป็นเรื่องที่สังคมไทยตั้งคำถามกันด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงมากกับ กับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน กับมูลค่า 6 หมื่นกว่าล้านบาท

ติดตามกันในช่วงตอบโจทย์วันนี้นะคะ ว่าคุณโสภณจะแจกแจงประเด็นร้อนนี้กับสังคมไทยอย่างไร ทำไมถึงตัดสินใจเช่าแทนที่จะซื้อ แล้วการลดงบประมาณลงจะช่วยได้หรือไม่ แล้วทางสมาชิกวุฒิสภาที่ประสานเสียงกันค้านเซ็งแซ่มากขึ้นวิพากษ์โครงการนี้อย่างไร