“Bangkok Climate Change Talks 2009”
เวทีสำคัญของการประชุมระดับโลกว่าด้วย ความเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลก “Climate Change” ที่ทั้งโลกกำลังตื่นตัว จะมีขึ้น 28 กันยายน ถึง 9 ตุลาคม ที่สหประชาชาติกรุงเทพค่ะ
เป็นส่วนหนึ่งของการต่อรองกันห้าระลอกในระดับนานาชาติ ว่าด้วยเรื่อง United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) สองเดือนก่อนจะมีการประชุมครั้งใหญ่เดือนธันวาคม ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ค
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว 180 ประเทศทั่วโลกตกลงกันว่าช่วง 2 ปีที่กำลังจะผ่านพ้นเป็นช่วงเวลาแห่งการพูดคุย ต่อรอง เจรจา ก่อนที่จะนำเสนอผลการประชุมที่ประเทศเดนมาร์ค
งานใหญ่ครั้งนี้จะมีผู้ร่วมประชุมจากทั่วโลกกว่า 2500 คนค่ะ กรุงเทพได้ต้อนรับแขกสำคัญขนาดนี้ แ ละจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ จำนวนคนมากๆไม่สำคัญเท่ากับผลที่จะตามมาว่าได้คุณภาพขนาดไหน เพื่อความร่วมมือในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
งานใหญ่ขนาดนี้คนไทยไม่สนใจไม่ได้ค่ะ
27.9.09
22.9.09
นายพล "วัง เปา" กับชะตากรรม ม้งลาว ในไทย
ม้งลาวในไทยเหลืออยู่ 4,511 คนค่ะ แหล่งข่าวระดับสูงในวงการความมั่นคงของไทยบอก และจะต้องส่งกลับไปให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวดูแลต่อ และทางลาวจะรับกลับไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 นี้
คนม้งลาวอพยพออกมาจากลาวในช่วงสงครามเวียดนาม คนกลุ่มนี้เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามเวียดนาม พอสงครามจบ ค.ศ. 1975 ทั้งผู้นำม้งลาว ทั้งคนม้งลาว ต้องหาทางออกไปจากลาว เพราะทางการลาวย่อมถือว่าเป็นศัตรูของชาติ นายพลวังเปา ผู้นำม้งลาวพลัดถิ่นไปอยู่สหรัฐ และกลายเป็นผู้นำท้องถิ่น ที่คนม้งลาวให้ความเคารพนับถือตั้งแต่บัดนั้น
เมื่อ 19 กันยายน ศาลแขวงที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซาคราเมนโต ของสหรัฐ ตัดสินยกเลิกข้อหาวางแผนทำลายล้างรัฐบาลลาว ต่อนายพล วังเปา หลังจากจับเขาไปอยู่ในเรือนจำเดือนมิถุนายน สองปีก่อน นายพล วัง เปา เป็นที่รักของคนม้งลาวในสหรัฐเป็นอันมาก ผู้คนประท้วงศาลในสหรัฐมาหลายรอบแล้วเพราะต้องการเรียกร้องให้ปล่อยตัวท่านนายพล ที่พวกเขาเคารพรักเหมือนเป็นประมุขสูงสุด
ตอนที่ถูกจับนายพล วังเปา ถูกศาลตั้งข้อหาว่า จัดหาอาวุธ ให้เงิน และสมคบคิดกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อล้มล้างรัฐบาลลาว สองวันก่อน นายพล วังเปา ได้รับการปล่อยตัวแต่เพียงผู้เดียวและยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งปวง แต่จำเลยคนอื่นๆยังถูกกักขังและจะต้องถูกสอบสวนต่อไป
แหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงในไทยบอกว่า รัฐบาลลาวกระซิบบอกว่า ถ้าสิ้นปีนี้ ทางการไทยส่งตัวม้งลาวกลับไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น หลังจากนั้นจะไม่รับแล้ว และบอกว่าที่ผ่านมาเป็นกังวลกับกลุ่มม้งลาวในไทยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่
ม้งลาวที่ถูกส่งกลับไปตอนนี้ จะได้รับสถานะเหมือนคนลาว ได้รับการนิรโทษกรรม และอาจจะได้รับการจัดสรรที่ดินให้ทำกินต่อไปในประเทศ แต่ถ้าหยั่งใจดูคนม้งลาวในไทยไม่อยากไปลาวค่ะ ต้องการจะไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐมากกว่า แต่รัฐบาลสหรัฐปิดประตูรับม้งลาวไปอยู่ที่อเมริกาแล้ว
ดูเหมือนจะเหลือทางเดียว คือกลับ สปป. ลาว น่าเห็นใจยิ่งนักกับชีวิตคนที่แขวนอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผู้บริหารในระดับรัฐบาลเป็นผู้บงการชีวิต
ประวัติศาสตร์ที่ติดมากับผู้คนจะทำให้หายไป แล้วนับหนึ่งกันใหม่ในคนรุ่นนี้ได้หรือ อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าช่วงชีวิตของคนรุ่นเดียว!
คนม้งลาวอพยพออกมาจากลาวในช่วงสงครามเวียดนาม คนกลุ่มนี้เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามเวียดนาม พอสงครามจบ ค.ศ. 1975 ทั้งผู้นำม้งลาว ทั้งคนม้งลาว ต้องหาทางออกไปจากลาว เพราะทางการลาวย่อมถือว่าเป็นศัตรูของชาติ นายพลวังเปา ผู้นำม้งลาวพลัดถิ่นไปอยู่สหรัฐ และกลายเป็นผู้นำท้องถิ่น ที่คนม้งลาวให้ความเคารพนับถือตั้งแต่บัดนั้น
เมื่อ 19 กันยายน ศาลแขวงที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซาคราเมนโต ของสหรัฐ ตัดสินยกเลิกข้อหาวางแผนทำลายล้างรัฐบาลลาว ต่อนายพล วังเปา หลังจากจับเขาไปอยู่ในเรือนจำเดือนมิถุนายน สองปีก่อน นายพล วัง เปา เป็นที่รักของคนม้งลาวในสหรัฐเป็นอันมาก ผู้คนประท้วงศาลในสหรัฐมาหลายรอบแล้วเพราะต้องการเรียกร้องให้ปล่อยตัวท่านนายพล ที่พวกเขาเคารพรักเหมือนเป็นประมุขสูงสุด
ตอนที่ถูกจับนายพล วังเปา ถูกศาลตั้งข้อหาว่า จัดหาอาวุธ ให้เงิน และสมคบคิดกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อล้มล้างรัฐบาลลาว สองวันก่อน นายพล วังเปา ได้รับการปล่อยตัวแต่เพียงผู้เดียวและยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งปวง แต่จำเลยคนอื่นๆยังถูกกักขังและจะต้องถูกสอบสวนต่อไป
แหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงในไทยบอกว่า รัฐบาลลาวกระซิบบอกว่า ถ้าสิ้นปีนี้ ทางการไทยส่งตัวม้งลาวกลับไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น หลังจากนั้นจะไม่รับแล้ว และบอกว่าที่ผ่านมาเป็นกังวลกับกลุ่มม้งลาวในไทยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่
ม้งลาวที่ถูกส่งกลับไปตอนนี้ จะได้รับสถานะเหมือนคนลาว ได้รับการนิรโทษกรรม และอาจจะได้รับการจัดสรรที่ดินให้ทำกินต่อไปในประเทศ แต่ถ้าหยั่งใจดูคนม้งลาวในไทยไม่อยากไปลาวค่ะ ต้องการจะไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐมากกว่า แต่รัฐบาลสหรัฐปิดประตูรับม้งลาวไปอยู่ที่อเมริกาแล้ว
ดูเหมือนจะเหลือทางเดียว คือกลับ สปป. ลาว น่าเห็นใจยิ่งนักกับชีวิตคนที่แขวนอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผู้บริหารในระดับรัฐบาลเป็นผู้บงการชีวิต
ประวัติศาสตร์ที่ติดมากับผู้คนจะทำให้หายไป แล้วนับหนึ่งกันใหม่ในคนรุ่นนี้ได้หรือ อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าช่วงชีวิตของคนรุ่นเดียว!
19.9.09
อังเกล่า แมร์เคิล ขวัญใจคนเยอรมัน?
กำลังเข้มข้นกับการเมืองในเยอรมนี โดยเฉพาะเมื่อนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อังเกล่า แมร์เคิล เตรียมจะลงชิงชัยอีกครั้ง ในวันที่ 27 กันยายนี้ค่ะ
ตอนนี้เห็นภาพของเธอไปทั่วเมือง ทั้งป้ายโฆษณา ในหนังสือพิมพ์ และ ทางทีวี
ภาพที่เห็นใช่สุดขาวมาจากหนังสือพิมพ์ Berliner Zeitung ฉบับล่าสุดค่ะ อยากจะอ่านออกว่าเขาเขียนว่าอะไรบ้าง จากรายงานของสำนักข่าวบีบีซี ตอนนี้พรรค CDU ของเธอนำหน้าพรรคคู่แข่งอยู่หลายขุม และมีทีท่าว่าตอนนี้เธอเป็นนักการเมืองเนื้อหอมที่สุดไปแล้วค่ะ
สี่ปีก่อนตอนที่ชนะการเลือกตั้ง แมร์เคิล ยังดูน่าเบื่อ ดูไม่ทันสมัย แต่ผู้ติดตามการเมืองบอกว่าความเห็นเหล่านั้นประมาทเธอมากเกินไป เพราะที่จริงเธอเป็นนักการเมืองที่ไม่ต้องไปใส่ใจกับภาพลักษณ์ภายนอก เพราะว่าเธอเป็นนักการเมืองมืออาชีพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ จนตอนนี้เรียกได้ว่ามีรูปแบบของตนเองในความเป็นผู้นำ
นักวิจารณ์บอกว่า คนเยอรมันไม่โง่ พวกเขารู้ว่าต้องเลือกใครเข้ามาทำงานถึงจะเหมาะสมและตอนนี้เขาต้องการผู้นำที่เอาจริงเอาจัง และไว้เนื้อเชื่อใจได้ ที่สำคัญเธอรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
ผลงานที่ประชาชนยอมรับกันมากและเทคะแนนให้แมร์เคิลมากขึ้น ก็คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เยอรมนีตอนนี้ก้าวพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้แล้ว
ตอนนี้พรรค CDU ของเธอเป็นพันธมิตรร่วมกับพรรค CSU อย่างหลวมๆแต่เสียงของสองพรรคนี้คาดว่าจะไม่พอที่จะตั้งรัฐบาลร่วมกัน แมร์เคิลก็คงจะหันไปจีบพรรค FDP ที่เน้นความสำคัญของนักธุรกิจให้มาแทนที่พรรค SPD อดีตรัฐบาล ที่ได้มาจัดตั้งรัฐบาลนี้ร่วมกัน
ความโดดเด่นของเธอ อาจจะมาจากความอ่อนแอของคู่แข่งสำคัญ Frank-Walter Steinmeier จากพรรค SPD เพราะนอกจากจะกุมหัวใจของคนเยอรมันไม่ได้แล้ว ภายในพรรคเองยังเต็มไปด้วยปัญหาต่อสู้กันเอง
คนเยอรมันคงยังไม่อยากเลือกอะไรใหม่ๆ เพราะของเดิมที่มีกำลังดีอยู่แล้ว
ชอบใจจริงๆที่เขาบอกว่าคนเยอรมันไม่โง่ รู้ว่าเลือกอะไรแล้วจะดีกับประเทศตนเอง เลือกคนจากเนื้อหาสาระ.....จะมีนักวิจารณ์มาพูดถึงคนไทยแบบนี้บ้างไหมหนอ?
ตอนนี้เห็นภาพของเธอไปทั่วเมือง ทั้งป้ายโฆษณา ในหนังสือพิมพ์ และ ทางทีวี
ภาพที่เห็นใช่สุดขาวมาจากหนังสือพิมพ์ Berliner Zeitung ฉบับล่าสุดค่ะ อยากจะอ่านออกว่าเขาเขียนว่าอะไรบ้าง จากรายงานของสำนักข่าวบีบีซี ตอนนี้พรรค CDU ของเธอนำหน้าพรรคคู่แข่งอยู่หลายขุม และมีทีท่าว่าตอนนี้เธอเป็นนักการเมืองเนื้อหอมที่สุดไปแล้วค่ะ
สี่ปีก่อนตอนที่ชนะการเลือกตั้ง แมร์เคิล ยังดูน่าเบื่อ ดูไม่ทันสมัย แต่ผู้ติดตามการเมืองบอกว่าความเห็นเหล่านั้นประมาทเธอมากเกินไป เพราะที่จริงเธอเป็นนักการเมืองที่ไม่ต้องไปใส่ใจกับภาพลักษณ์ภายนอก เพราะว่าเธอเป็นนักการเมืองมืออาชีพ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้ จนตอนนี้เรียกได้ว่ามีรูปแบบของตนเองในความเป็นผู้นำ
นักวิจารณ์บอกว่า คนเยอรมันไม่โง่ พวกเขารู้ว่าต้องเลือกใครเข้ามาทำงานถึงจะเหมาะสมและตอนนี้เขาต้องการผู้นำที่เอาจริงเอาจัง และไว้เนื้อเชื่อใจได้ ที่สำคัญเธอรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
ผลงานที่ประชาชนยอมรับกันมากและเทคะแนนให้แมร์เคิลมากขึ้น ก็คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เยอรมนีตอนนี้ก้าวพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองได้แล้ว
ตอนนี้พรรค CDU ของเธอเป็นพันธมิตรร่วมกับพรรค CSU อย่างหลวมๆแต่เสียงของสองพรรคนี้คาดว่าจะไม่พอที่จะตั้งรัฐบาลร่วมกัน แมร์เคิลก็คงจะหันไปจีบพรรค FDP ที่เน้นความสำคัญของนักธุรกิจให้มาแทนที่พรรค SPD อดีตรัฐบาล ที่ได้มาจัดตั้งรัฐบาลนี้ร่วมกัน
ความโดดเด่นของเธอ อาจจะมาจากความอ่อนแอของคู่แข่งสำคัญ Frank-Walter Steinmeier จากพรรค SPD เพราะนอกจากจะกุมหัวใจของคนเยอรมันไม่ได้แล้ว ภายในพรรคเองยังเต็มไปด้วยปัญหาต่อสู้กันเอง
คนเยอรมันคงยังไม่อยากเลือกอะไรใหม่ๆ เพราะของเดิมที่มีกำลังดีอยู่แล้ว
ชอบใจจริงๆที่เขาบอกว่าคนเยอรมันไม่โง่ รู้ว่าเลือกอะไรแล้วจะดีกับประเทศตนเอง เลือกคนจากเนื้อหาสาระ.....จะมีนักวิจารณ์มาพูดถึงคนไทยแบบนี้บ้างไหมหนอ?
15.9.09
"dirty dancer" จากไปแล้ว
ต่อสู้มานานกับมะเร็งตับอ่อนถึง 20 เดือน Patrick Swayze เสียชีวิตแล้วในวัย 57 ปี ด้วยความสงบพร้อมหน้าพร้อมตาไปด้วยครอบครัวที่ดูแลอยู่ใกล้ๆ
หนังเรื่องแรกที่ดิฉันได้ชมฝีมือของ Patrick ก็คือ dirty dancing ค่ะ ดูกันเพลินกับท่าเต้นของพระเอกนางเอก แถมเพลงเพราะๆ The Time of My Life และเพลง She's like the wind ที่ Patrick ร่วมเขียนด้วย หนังเรื่องนี้ติดอันดับว่าเป็นหนังฮอลลีวู้ดที่มีคนชมมากที่สุด ไม่น่าแปลกใจกับความสามารถเรื่องเต้นรำ เพราะเขาเคยร่วมแสดงกับ New York City ballet ก่อนจะย้ายไปแสดงที่บรอดเวย์ แถมแม่ของเขายังเปิดสตูดิโอสอนเต้นบัลเลต์ด้วยทำให้เขาได้ฝึกฝนอย่างหนักในวัยเด็ก
หลายท่านอาจจะชอบหนังเรื่อง Ghost กับนางเอกเดมี่ มัวร์ ตอนนั้นทรงผมของมัวร์ ฮิตกันไปทั่วโลกเลย แถมเนื้อเรื่องยังซาบซึ้งของพระเอกนางเอก ตามมาด้วยความฮาของ Whoopi Goldberg ที่ทำให้เรื่องนี้ประทับใจไม่น้อยค่ะ
ที่ดิฉันเห็นว่า Patrick พลิกบทมากที่สุดก็คือเรื่อง To Wong Foo จากหนุ่มมาดแมน มาเป็นสาวงาม จิตใจดี เหมือนนางฟ้า ค่อยๆพูดค่อยๆจา พร้อมด้วยหนุ่มล่ำอย่าง Wesley Snipes และ John Leguizamo ที่พลิกบทมาเป็น drag queen กันอย่างถึงบทบาท จนคนดูต้องเทใจให้กับความน่ารักของสามหนุ่มค่ะ
Patrick พบว่าเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน เมื่อเดือนมกราคม ปีที่แล้วค่ะ แต่ก็ใจสู้ต่อสู้กับมะเร็งร้ายมาตลอด และไม่ยอมปลดระวางตัวเอง ออกจากซีรีส์เรื่อง Beast ที่เขารับบทหนักอยู่ด้วย เขาบอกว่าทั้งกลัวทั้งโกรธ ที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็ง
สู้จนวินาทีสุดท้าย ร่วมแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
9.9.09
สื่อเทศมองไทย
คลิ๊กชม เปรียบเทียบบทเรียนที่สื่อจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นกระจกสะท้อนความขัดแย้งการเมืองไทย
กับงานสัมมนาที่สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คืนนี้ตอบโจทย์ จะคุยกันแบบเจาะลึกกับทีมนักวิจัยด้วยค่ะ
7.9.09
ยูเอ็น นายกฯ และ อาถรรพณ์เลข 19
กำลังเกิดกระแสกังวลว่าจะเกิดอาถรรพณ์ 19 กันยายน กับนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ในการประชุมที่สหประชาชาติในเดือนกันยายนนี้
คลิ๊กปังความเห็นของดิฉันค่ะว่านายกรัฐมนตรีน่าจะไป หรือ ไม่น่าจะไป
6.9.09
อดีตนายก กับผลสำรวจ
อาจจะเป็นเพราะใกล้วันที่ 19 กันยายน ก็เป็นได้ วันครบรอบ 3 ปีปฏิวัติเมื่อ 19 กันยายน 2549 ช่วงนี้เลยได้ติดตามข่าวคราวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร กันค่อนข้างมาก นำร่องมาจากทวิตเตอร์ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งเรื่องลงทุนในอาฟริกา เรื่องเดินทางไปมัลดีฟส์ และล่าสุดที่ว่าจะไปลงทุนทำธุรกิจเฮลิคอปเตอร์แบบมีชูชีพ แถมด้วยการจัดรายการวิทยุสดๆทางอินเตอร์เนต
แต่ล่าสุดวันนี้ที่คนฟังทางสถานีวิทยุ "กระแสหลัก" ก็ได้มีโอกาสฟังสัมภาษณ์ในรายการวิทยุคลื่น fm100.5 ของ อสมท. และบอกว่าพร้อมคุยกับรัฐบาล แถมยังเสริมว่าเชื่อว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจใดสั่งการได้
ไม่แน่ใจว่าคุณทักษิณอยากจะใช้วิธี "คุย" กับรัฐบาลจริงๆหรือ และถ้าจริงๆจะคุยกันเรื่องอะไร เตรียมวาระที่จะคุยเพื่อหาทางออกให้บ้านเมืองหรืออย่างไร หรือจะเป็นการคุยเพื่อยื่นข้อเสนอจากฝั่งตนมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มเสื้อแดงนัดวันกันแล้วว่าจะชุมนุมกัน 19 กันยายน
น่าสนใจกับความรู้สึกของประชาชนผ่านการสำรวจของสวนดุสิตโพลที่ออกมาล่าสุด ทีชี้ว่าสิ่งที่ประชาชนเป็นกังวลมากที่สุดตอนนี้ก็คือการชุมนุมกันของเสื้อแดง และอันดับสองตามมาด้วยการรุกเชิงข่าวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ
สะท้อนความหนักอกหนักใจของผู้คนในบ้านเมืองที่หวังจะได้เห็นการเมืองเดินหน้า แต่ก็ยังติดกับกับความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศที่ยังเดินไปไหนไม่ได้สักที
5.9.09
ก้านกล้วย ผู้น่ารัก
หมาพันธุ์ St.Bernard อาจจะกำลังกลายเป็นจำเลยไปแล้วนะคะ เพราะว่าไปกัดเด็กวัย 5 ขวบคนหนึ่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่จะไปโทษหมาอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ ในช่วงตอบโจทย์ เมื่อคืนวันศุกร์ที่เพิ่งจะผ่านพ้น คุณชื่นชนก ณ ป้อมเพชร ผู้เลี้ยง “ก้านกล้วย” สุนัขเซนต์เบอร์นาร์ด วัยสองขวบกว่า ก็พาเจ้าก้านกล้วยมาออกรายการด้วยนะคะ
พี่ๆที่สถานีตื่นเต้นกันยกใหญ่ มีแต่คนห้อมล้อม คงเป็นเพราะเจ้าก้านกล้วยตัวโตมาก หนักถึง 70 กิโลกรัม และก็มีอาการใจดี ไม่ส่งเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงหอบหายใจเพราะต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้น ต้องพักกันอยู่หลายนาทีถึงจะเดินต่อเข้าไปในห้องส่งได้
เห็นได้ชัดว่าคุณชื่นชนกดูแล ก้านกล้วยอย่างใกล้ชิดค่ะ พูดคุยกับหมาด้วยความรักและห่วงใย เป็นโชคดีของเจ้าก้านกล้วยจริงๆ
เลยขอบันทึกภาพกับดาราหน้ากล้องอย่างเจ้าก้านกล้วยซะหน่อยค่ะ เลยเวลานอนของก้านกล้วยมาเกือบสามชั่วโมงเต็มแล้วค่ะ โชคดีที่ไม่หงุดหงิดใส่ดิฉันเสียก่อน ปุกปุยน่ารักมากค่ะ
พี่ๆที่สถานีตื่นเต้นกันยกใหญ่ มีแต่คนห้อมล้อม คงเป็นเพราะเจ้าก้านกล้วยตัวโตมาก หนักถึง 70 กิโลกรัม และก็มีอาการใจดี ไม่ส่งเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงหอบหายใจเพราะต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้น ต้องพักกันอยู่หลายนาทีถึงจะเดินต่อเข้าไปในห้องส่งได้
เห็นได้ชัดว่าคุณชื่นชนกดูแล ก้านกล้วยอย่างใกล้ชิดค่ะ พูดคุยกับหมาด้วยความรักและห่วงใย เป็นโชคดีของเจ้าก้านกล้วยจริงๆ
เลยขอบันทึกภาพกับดาราหน้ากล้องอย่างเจ้าก้านกล้วยซะหน่อยค่ะ เลยเวลานอนของก้านกล้วยมาเกือบสามชั่วโมงเต็มแล้วค่ะ โชคดีที่ไม่หงุดหงิดใส่ดิฉันเสียก่อน ปุกปุยน่ารักมากค่ะ
2.9.09
การต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ของ "เด็กชายหม่อง"
เรื่องเล็กๆที่ไม่เล็ก ของเด็กชายคนหนึ่ง
จากที่มีทีท่าว่าจะมีความหวังก็เหมือนกลับจะตาลปัตรอีกแล้วค่ะ สำหรับเด็กชายหม่อง ทองดี วัย 12 ปี ผู้ไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย เพราะเกิดจากพ่อแม่ที่เป็นแรงงานต่างด้าวพม่าที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เรื่องของเด็กชายหม่องกลายเป็นประเด็นที่ต้องร่วมกันพิจารณา เพราะเป็นเรื่องไม่ธรรมดากับความสามารถในการพับเครื่องบินกระดาษร่อนอยู่ในอากาศได้นานถึงกว่า 10 วินาที แถมยังเป็นแชมป์ระดับประเทศไทย
น้องหม่อง มีความหวังอย่างเต็มที่และขยันฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงเพื่อให้ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันนี้
น้องหม่องบอกว่า พร้อมที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทย ทั้งๆที่กฎหมายของประเทศที่เขาเกิด ยึดโยงว่าน้องหม่อง เป็นคนชายขอบ เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะสัญชาติ และถูกจำกัดบริเวณในการออกนอกราชอาณาจักร
น้องหม่อง ต้องการเอกสารรับรองเพื่อให้เดินทางออกไปต่างประเทศและกลับเข้าประเทศไทยได้ เพื่อร่วมแข่งขัน
แต่กรมการปกครอง กระทรวงมหาไทย ให้เหตุผลว่า การอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักร กระทรวงเซ็นอนุมัติให้ได้ แต่กลับมาไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ แถมยังบอกด้วยว่าตามกำหนดพ่อแม่และเด็กชายหม่อง จะอยู่เมืองไทยได้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2553 ถ้าไม่มีการต่อสถานะแสดงว่าอยู่เมืองไทยต่อไปไม่ได้
เป็นการขู่จากกฎหมายที่ออกโดยรัฐชาติ จากรัฐบาลกลาง เพื่อต้องการควบคุมคนที่ได้ชื่อว่า เป็น “คนชายขอบ” ในสังคมไทยหรือเปล่าคะ
หมายความว่า “คนชายขอบ” จะไม่มีทางได้แสดงความสามารถ จะต้องถูกกดไว้โดยกฎหมาย ถึงแม้จะมีความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการแข่งขันอย่างนั้นหรือ แล้วสิ่งที่ “คนชายขอบ” ผู้มีสถานะไร้สัญชาติ ทำให้กับสังคมส่วนใหญ่และพร้อมที่จะมอบชื่อเสียงและผลงานที่ได้ให้กับประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ละ จะไม่มีความยืดหยุ่นทางกฎหมาย จะไม่มีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษให้พวกเขาเลยหรือ ดิฉันคิดว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งถ้าหากจะยึดโยงชีวิตมนุษย์ ตัดสินกันตามกรอบของกฎหมายแบบสุดโต่ง และปิดกั้นโอกาสและความสามารถของมนุษย์คนหนึ่งคนใดที่จะได้รับสิทธิตามที่เขาจะพึงมีได้ให้สมกับที่ได้แสดงความสามารถแล้วให้เป็นที่ประจักษ์
หรือรัฐชาติ จะมีไว้เพียงเพื่อทำร้ายคนที่ไม่มีทางต่อสู้ ?
จากที่มีทีท่าว่าจะมีความหวังก็เหมือนกลับจะตาลปัตรอีกแล้วค่ะ สำหรับเด็กชายหม่อง ทองดี วัย 12 ปี ผู้ไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย เพราะเกิดจากพ่อแม่ที่เป็นแรงงานต่างด้าวพม่าที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เรื่องของเด็กชายหม่องกลายเป็นประเด็นที่ต้องร่วมกันพิจารณา เพราะเป็นเรื่องไม่ธรรมดากับความสามารถในการพับเครื่องบินกระดาษร่อนอยู่ในอากาศได้นานถึงกว่า 10 วินาที แถมยังเป็นแชมป์ระดับประเทศไทย
น้องหม่อง มีความหวังอย่างเต็มที่และขยันฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงเพื่อให้ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่นในอีกไม่กี่วันนี้
น้องหม่องบอกว่า พร้อมที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทย ทั้งๆที่กฎหมายของประเทศที่เขาเกิด ยึดโยงว่าน้องหม่อง เป็นคนชายขอบ เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะสัญชาติ และถูกจำกัดบริเวณในการออกนอกราชอาณาจักร
น้องหม่อง ต้องการเอกสารรับรองเพื่อให้เดินทางออกไปต่างประเทศและกลับเข้าประเทศไทยได้ เพื่อร่วมแข่งขัน
แต่กรมการปกครอง กระทรวงมหาไทย ให้เหตุผลว่า การอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักร กระทรวงเซ็นอนุมัติให้ได้ แต่กลับมาไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ แถมยังบอกด้วยว่าตามกำหนดพ่อแม่และเด็กชายหม่อง จะอยู่เมืองไทยได้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2553 ถ้าไม่มีการต่อสถานะแสดงว่าอยู่เมืองไทยต่อไปไม่ได้
เป็นการขู่จากกฎหมายที่ออกโดยรัฐชาติ จากรัฐบาลกลาง เพื่อต้องการควบคุมคนที่ได้ชื่อว่า เป็น “คนชายขอบ” ในสังคมไทยหรือเปล่าคะ
หมายความว่า “คนชายขอบ” จะไม่มีทางได้แสดงความสามารถ จะต้องถูกกดไว้โดยกฎหมาย ถึงแม้จะมีความสามารถที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการแข่งขันอย่างนั้นหรือ แล้วสิ่งที่ “คนชายขอบ” ผู้มีสถานะไร้สัญชาติ ทำให้กับสังคมส่วนใหญ่และพร้อมที่จะมอบชื่อเสียงและผลงานที่ได้ให้กับประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ละ จะไม่มีความยืดหยุ่นทางกฎหมาย จะไม่มีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษให้พวกเขาเลยหรือ ดิฉันคิดว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งถ้าหากจะยึดโยงชีวิตมนุษย์ ตัดสินกันตามกรอบของกฎหมายแบบสุดโต่ง และปิดกั้นโอกาสและความสามารถของมนุษย์คนหนึ่งคนใดที่จะได้รับสิทธิตามที่เขาจะพึงมีได้ให้สมกับที่ได้แสดงความสามารถแล้วให้เป็นที่ประจักษ์
หรือรัฐชาติ จะมีไว้เพียงเพื่อทำร้ายคนที่ไม่มีทางต่อสู้ ?
1.9.09
where are you?
เพิ่งมีข่าวว่าไปเยือนเหมืองเพชรที่สวาซิแลนด์เมื่อปลายสัปดาห์ทีแล้ว แถม พ.ต.ท. ทักษิณ ยังได้พบกับกษัตริย์สวาติที่ 3 แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ด้วย
แค่ไปเยือนสวาซิแลนด์ก็น่าสนใจแล้ว กับประเทศที่ยังปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เพียงแห่งเดียวในโลกและประมุขของประเทศมีอำนาจสูงสุดเพียงผู้เดียว แต่มีคนตั้งคำถามว่าไปถึงสวาซิแลนด์แล้วทำไมไม่ได้ไปเยือนอาฟริกาใต้ต่อเลย เพราะมีเหมืองทองเหมืองเพชรที่คุณทักษิณ สนใจด้วย
แว่วมาว่าล่าสุดจะจัดรายการวิทยุผ่านทางเวปไซต์สดๆคืนนี้ออกอากาศมาที่ประเทศไทยด้วยเวลา 20.30 น. เป็นต้นไป แล้วจะเดินทางกลับไปต่อที่ดูไบ คุณทักษิณบอกใน twitter ว่าไม่อยากเปิดเผยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนเพราะเกรงจะทำให้เจ้าของประเทศเขาหนักใจ วันนี้คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีบอกจัดตั้งทีมงานตรวจสอบเนื้อหาของรายการวิทยุแล้ว....
Thaksin, where are you?
Subscribe to:
Posts (Atom)