นายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 27 ได้รับทราบกันแล้วนะคะว่า คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หลังจากการโหวดกันในสภา ของบรรดา สส คะแนนที่ออกมา สนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ 235 เสียง ต่อ 198 เสียง ที่ให้พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก
งานนี้เห็นท่าว่าจะไม่มีช่วงน้ำผึ้งพระจันทร์ทางการเมือง เพราะมีภาระหน้าที่ที่ต้องสะสางมากมาย
แค่แบ่งโควต้ารัฐมนตรีก็คงจะเป็นบททดสอบสำคัญแล้วละค่ะ สำหรับผู้นำคนใหม่คนนี้
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในที่นี่ทีวีไทยคืนนี้นะคะ ถึงจุดอ่อน จุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ และนโยบายการทำงานที่ผ่านมาของพรรคจะถูกใจคนในภูมิภาค และคนหาเช้ากินค่ำในเมืองหลวงหรือไม่ แล้วพรรคควรจะปรับทิศทางอย่างไร เพื่อให้ถูกใจชาวบ้าน
4 comments:
ให้เดา นัฎฐา ต้องสัมภาษณ์พวก สมาคมการค้าต่างชาติแน่ๆ ตามค่านิยม ที่ถูกสั่งสม
.. เพราาะคิดว่า มันถูก
คอนเฟริม และรอชม
เดาผิด..555...
นัฏฐา สัมภาษณ์ นักการตลาดเรื่องกลยุทธ์เลือกตั้งผู้ว่า กทม....
อย่าอคติกันนัก...ขอบอก..
ทำไมพวกคุณไม่ให้โอกาสกับการสมานฉันท์บ้าง
ผมฟังข่าวว่า องอาจ คร้ามไพบูลย์ และระนองรัตน์ สุวรรณฉวี แจ้งความเอาผิด กรณี พลพรรค นปช. ทุบรถพวกเขา แน่นอน ก่อนจะถึงการสมานฉันท์ ต้องมีการตรวจสอบความถูกผิด ขั้นต่อไปคือการดำเนินการ ในกรณีนี้ พวก นปช. คงรู้แล้วพวกเขาทำอะไร ต่อมา ปชป. สามารถให้อภัย (ในความของอัลเลน ที่บอกว่าการให้อภัยย่อมอยู่ในเงื่อนไขที่ผู้ให้อภัยมีอำนาจกระทำได้จริง ซึ่งเหมือนการให้อภัยในพุทธศาสนา จากชาดก เรื่อง "สุวรรณสาม") แต่การแจ้งความของ องอาจ ย่อมบอกแล้วว่า ปชป. ไม่มีความคิดเรื่องการสมานฉันท์
การเผชิญหน้าระหว่าง ทหาร + พธม. + ปชป. + Thai PBS กับ พท. + นปช. ต้องมีต่อไป
กราบเรียนด้วยความเคารพ...
ก่อนอื่นถ้าตอบแบบสะใจ..ก็รู้สึกได้ว่าตลอดการขับเคลื่อนของขบวนประชาชนในนาม พธม.แม้เป็นฝ่ายถูกกระทำด้วยความรุนแรงทั้งจากรัฐ(โดยเฉพาะตำรวจ)และมวลชนที่รัฐหนุนหลัง (นปก.) ฝ่าย ประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐบาล(ยุคนั้น)ต้องบาดเจ็บ ล้มตายไปจำนวนไม่น้อย..ยังยังถูกคุกคามโดยรัฐตำรวจโดยมาตรการทางวกฏหมายสารพัด ทั้งเป็นกบถ และอื่นๆ อย่างแกนนำก็โดนคดีมากกว่า ๕๐ คดี ต้องแก้ความกันจนทุกวันนี้...ท่านไม่เห็นว่า "ความปรองดอง" จะถูกเรียกร้องในช่วง ๖ เดือนนั้น...
แต่เมื่อพวกท่านเพลี่ยงพล้ำในทางการเมือง สูญเสียอำนาจรัฐโดยวิถีทางรัฐสภา(ที่ท่านพร่ำเรียกหาในช่วง ๖ เดือนก่อน?)พลพรรคเสื้อแดงแสดงความป่าเถื่อนใช้ความรุนแรงอย่างที่เห็นและผิดกฏหมายเป็นที่ประจักษ์ เป็นเหตุซึ่งหน้าแต่เจ้าหน้าที่ ๖๐๐ กว่าคนกลับดูคนแค่ร้อยคนทำผิดกฏหมาย(เข้าข่ายละเว้น?) ...ท่านกลับเรียกหา "ความปรองดอง"...ดูไม่เป็นการปฏิบัติต่อกันที่ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดไปหน่อยรึ?...
นั่นอาจเป็นความรู้สึกที่เรามีสิทธิรู้สึกต่อข้อเรียกร้องนี้ได้....
อย่างไรก็ตาม ถ้าว่าตามหลักเหตุผล หลักการสมานฉันท์ หรือปรองดอง หรืออะไรที่ฟังดูดีกว่านี้ก็ตาม จะเป็นจริงไม่ได้หากปราศจากหลักนิติรัฐ นิติธรรม และการทำความจริงให้ปรากฏ...และการใช้กฏหมายอย่างเสมออภาคและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย...
การเรียกร้องความปรองดองบนพื้นฐานความมไปนธรรมนั้นย่อมไม่อาจบรรลุผลที่เป็นจริงได้...
การยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม จะนำมาซึ่งความปรองดองบนพื้นฐานหลักการแห่งวความถูกต้อง และสันติสุขอย่างยั่งยืน...
Post a Comment