20.3.11

เมื่อได้สัมภาษณ์ "องค์ดาไล ลามะ"



ภารกิจครั้งสำคัญในชีวิตความเป็นนักข่าวของดิฉันได้ลุล่วงไปแล้ว กับการสัมภาษณ์พิเศษ "องค์ดาไล ลามะ ที่ 14" ผู้นำทางจิตวิญญาณของคนธิเบต ณ ที่พำนักของท่าน วัดนัมเกล ธรรมศาลา ประเทศอินเดีย การสัมภาษณ์องค์ดาไล ลามะ หรือพระนามเดิมว่า Tenzin Gyatso เป็นครั้งที่ตื่นเต้นและปลาบปลื้มมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตก็ว่าได้ กับการได้พบผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของคนธิเบต ผู้เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของคนธิเบตทั้งในธิเบตและคนธิเบตพลัดถิ่น และผู้จุดประกายเรื่องการฝึกฝนความเมตตา..ให้กับผู้คนทั่วโลก

ดีใจในฐานะคนข่าว กับการสัมภาษณ์ที่โอกาสมิได้เกิดขึ้นง่ายๆ
ปลื้มใจในฐานะ ผู้ติดตามผลงานคำสอนทางจิตวิญญาณของท่านมาหลายปี และได้พบกับพระองค์จริง ตัวจริง เสียงจริง

ห้วงเวลาที่ได้เข้าเฝ้าพระองค์ในสัปดาห์ที่แล้ว (วันที่ 14 มีนาคม 2554) เป็นจังหวะเดียวกับที่กำลังเกิดคำถามมากมายกับอนาคตของคนธิเบต ราว 6 ล้านคน รวมทั้งคนธิเบตที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 1.5 ล้านคน ว่าจากนี้ไปจะเดินหน้าอย่างไรกับการต่อสู้ทางการเมือง เมื่อองค์ดาไล ลามะ ทรงประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะไม่ทรงเป็นประมุขทางการเมืองอีกต่อไป จะขอคงบทบาทในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณเท่านั้น

ตลอดเวลาของการสัมภาษณ์ที่ได้สอบถามจากท่านตรงๆหลายคำถาม พระองค์ทรงย้ำถึงความตั้งใจที่จะถอนตัวทางการเมืองอย่างจริงจัง และดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ (ณ นาทีที่เขียนอยู่นี้ สส.ในรัฐสภาธิเบตพลัดถิ่นยังไม่ยอมอนุมัติการถอนตัวของท่าน มีเพียงแต่คณะรัฐมนตรีที่เปิดทางแล้ว)องค์ดาไลลามะ ตรัสว่า ถึงเวลาแล้วที่สามัญชนจะต้องเข้ามาบริหารการเมืองไปตามครรลองของประชาธิปไตย "นี่อาจจะเป็นความเห็นแก่ตัวของเรา แต่เราต้องการทำงานด้านจิตวิญญาณ ส่งเสริมคุณค่าความเป็นมนุษย์ และสอดคล้องของชีวิตกับศาสนา"

เหนือสิ่งอื่นใดพระองค์ตรัสว่า การตัดสินใจเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ของคนธิเบตเป็นหลัก...แต่ทรงอดไม่ได้ที่จะแย้มพรายว่า การประกาศแนวทางของพระองค์เช่นนี้น่าจะส่งผลดีกับการต่อรองกับจีนด้วย ความหมายของความต้องการให้ธิเบตเป็นเขตปกครองพิเศษ "autonomy" ของจีนคืออะไร นอกจากอนาคตธิเบต พระองค์ทรงคุยเรื่องหลักศาสนากับการแก้ปัญหาการเมือง การจุติกลับมาเกิด...เป็นผู้หญิง? และทรงเอ่ยถึงพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบีย และสถาบัน "ดาไล ลามะ"

พบกับคำตอบเหล่านี้ในรายการที่นี่ทีวีไทย และช่วงตอบโจทย์ กับการสัมภาษณ์ "องค์ดาไล ลามะ ที่ 14" ในวัย 75 ย่าง 76 ปี ผู้ทรงเต็มไปด้วยพลังและชีวิตชีวา และจะมีรายงานพิเศษทั้งคนธิเบตรุ่นใหม่ การต่อสู้ทางการเมือง ผู้คนกับพระสงฆ์ที่ธรรมศาลา และคนธิเบตพลัดถิ่นกับ "ความภูมิใจ" ในการรักษาทุกสิ่งที่เป็นธิเบต

ภาพข้างบน บันทึกหลังการสัมภาษณ์กับองค์ดาไล ลามะ พร้อมด้วยคุณภานุมาศ เจนกิจวัฒนะ พี่อู๊ด ช่างภาพมือฉมังของไทยพีบีเอส ที่บุกลุยเต็มที่กับงานนี้ค่ะ ...พอสัมภาษณ์เสร็จดพระองค์ทรงจับมือกับดิฉันและพี่อู๊ด...รู้สึกได้ถึงความเมตตากับนาทีนั้นที่ท่านให้เต็ม 100 เปอร์เซนต์

No comments: