29.4.09

ชื่อนั้นสำคัญไฉน?


ยังไม่ค่อยลงตัวกับชื่อเรียกของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ล่าสุดที่กำลังทำให้ทั่วโลกแตกตื่นกันอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเมื่อองค์การอนามัยโลก ระบุแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมการแพร่เชื้อ

จนถึงขณะนี้หลายประเทศยังเรียกกันว่า swine flu หรือ ไข้หวัดหมู คำว่า swine แปลว่าสายพันธุ์หมู
แต่ก็เกรงกันว่าขืนเรียกว่าไข้หวัดหมูจะทำให้คนแตกตื่นเกรงว่าจะติดจากหมูสู่คน ซึ่งไม่จริงเพราะโรคนี้แพร่จากคนสู่คนแล้ว

หลายประเทศและสื่อมวลชนเลยหันไปเรียกว่า Mexican Flu หรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก แต่ท่านเอกอัครราชทูตอาร์ตูโร ปวนเต ของเม็กซิโกประจำประเทศไทย เมื่อวานนี้เปรยระหว่างให้สัมภาษณ์กับดิฉันค่ะว่า ไม่อยากให้เรียกว่าไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเลย เพราะไม่ยุติธรรมกับประเทศ และจะทำให้ชื่อเสียงไม่ค่อยดี แถมยังปิดท้ายว่าถ้าเรียกว่า Mexican Vaccine ยังจะเข้าท่ากว่า …เอ ประเทศอื่นจะคิดเช่นนี้หรือเปล่า?

มีรายงานว่าอาจจะตั้งชื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ว่า North American Flu หรือไข้หวัดใหญ่อเมริกาเหนือ เลยยกให้กันทั้งระดับภูมิภาคไปเลย!

ไม่ใช่เรื่องใหม่ค่ะที่ตั้งชื่อโรคไข้หวัดใหญ่ตามภูมิศาสตร์ที่เจอ ตอนที่เกิด Spanish Flu ก็ใช้ชื่อนี้เมื่อปี 1918-1919 ตอนนั้นมีผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ถึง 50 ล้านคน แถมยังมี Asian Flu เมื่อปี 1957 ด้วย และเอเชียเองก็ขึ้นชื่อเรื่องโรคซาร์ส และ ไข้หวัดนกเมื่อหลายปีก่อน

24.4.09

Thaksin: where are you?


มีภาพออกจาก liberianobserver.com ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ กำลังจับมือกับนายริชาร์ด โทลเบิร์ต ประธานคณะกรรมาธิการการลงทุนแห่งชาติไลบีเรีย หลังจากเข้าหารือเกี่ยวกับการลงทุนครั้งมหาศาล ในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ แต่รายงานก็ระบุด้วยว่า ล่าสุด พันตำรวจโททักษิณ ออกไปจากไลบีเรียแล้ว และน่าจะเดินทางต่อไปที่ไอวอรี่โคสต์ และประเทศในแอฟริกาอื่นๆต่อไป

ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศก็กำลังตามหาตัวพันตำรวจโททักษิณกันจ้าละหวั่นค่ะ หลังจากเกิดเหตุจลาจลหลายจุดกลางกรุงเทพมหานคร และถูกออกหมายจับ

ภาพเคลื่อนไหวล่าสุดที่ได้เห็นกันก็คือตอนที่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอัลจาซีร่า เมื่อราววันที่ 17 เมษายน ตอนนั้นอยู่ที่ดูไบ แต่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บอกว่าออกไปจากประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน และตอนนี้ท่าทีของยูเออี ชัดเจนว่า ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าไปในประเทศ เพื่อเคลื่อนไหวโจมตีทางการเมืองก็จะไม่ยอม โดยล่าสุดทางการไทยทำสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับยูเออีแล้ว และประสานไปยังประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอีกกว่า 100 ประเทศ ให้ช่วยติดตามตัวพันตำรวจโททักษิณด้วย

13.4.09

แย่งเวทีสื่อนานาชาติ

18.00 น. พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ว่าการควบคุมการประท้วงของรัฐบาลทำด้วยความโหดร้าย เพราะว่าใช้กระสุนจริง ทำให้ต้องมีคนบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลจำนวนมาก และบอกว่าการต่อสู้ครั้งนี้ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย เพราะว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารงานโดยมิชอบ เพราะเกิดจากการแทรกแซงรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นการชุมนุมครั้งนี้ทำโดยประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องการเห็นการระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และการประท้วงทำด้วยความสงบ และย้ำว่าการที่รัฐบาลให้โฆษกกองทัพบกออกมาแถลง ไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด และบอกว่าจะกลับประเทศเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

ความคืบหน้าช่วงบ่าย


ช่วงบ่ายสองโมง จนตลอดบ่าย เกิดความวุ่นวายบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นหลัก โดยเฉพาะการจุดไฟเผารถประจำทาง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมยึดได้

และเมื่อเวลา 16.20 น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รศ ดร ปณิธาน วัฒนายากร และ พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเพื่อแถลงการปฏิบัติงานของคณะกรรมการควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ กอฉ. โดยเน้นว่าต้องทำงานด้วยความยุติธรรม และต้องร่วมมือกันให้ตำรวจ พลเรือน ทหาร ทำงานกันให้เต็มที่

พันเอกสรรเสริญ กล่าวว่าการปฏิบัติงานของทหารในช่วงเช้ามืดบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ทำให้ควบคุมพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไว้ได้แล้ว รวมถึงพื้นที่สะพานมักกะสัน บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และตึกชัย ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมไว้ได้

มีผู้บาดเจ็บจริง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ การใช้อาวุธและกระสุนจริง เป็นการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ผู้ชุมนุม เพื่อเปิดทางให้ปฏิบัติการได้ แต่ถ้าปรากฎว่าผู้ชุมนุมจะทำร้ายก็จะต้องใช้กระสุนซ้อมรบที่หัวกระสุนเป็นกระดาษ แต่จะไม่ใช้กระสุนจริง

16.40 มีรายงานว่าธนาคารกรุงเทพสาขาอุรุพงษ์ ถูกทุบ และ เกือบถูกจุดไฟเผา ถัดมาอีกสองสามช่วงตึกธนาคารไทยพาณิชย์ มีร่องรอยถูกเผา และ กระจกด้านในของธนาคารไทยพาณิชย์แตกแล้ว และร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11 บริเวณใกล้เคียงมีร่องรอยถูกไฟเผาเช่นกัน และต้องปิดให้บริการด้วย ตอนนี้ตำรวจนอกเครื่องแบบกำลังเข้าไปดูแลสถานการณ์ และผู้ชุมนุมได้ยึดรถประจำทางไว้ กลางถนนอุรุพงษ์ ถนนเส้นพระราม 6 พบร่องรอยเผายางด้วย และมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในบริเวณ และมีกลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งไล่รถตำรวจทำให้รถตำรวจต้องขับออกนอกบริเวณ และตู้โทรศัพท์สาธารณะโดนทำลายด้วย แต่ยังไม่มีทหารเข้าไปประจำการในบริเวณนี้

เหตุวุ่นวายต่อเนื่องเที่ยงครึ่ง ถึง บ่ายโมง

12.30 น รศ. ดร. ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแถลงเป็นภาษาอังกฤษว่ารัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ยังต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะที่ท่าเรือ และท่าอากาศยาน ต้องกระจายกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปในบริเวณ เพื่อดูแลความเรียบร้อย

12.30 จนถึง บ่ายโมง เต็มไปด้วยความวุ่นวายบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แยกราชปรารภ และ ซอยรางน้ำ ล่าสุดที่บริเวณแยกราชปรารภกลุ่ม นปช ใช้ก้อนหินทับคันเร่งของรถเมล์ที่ยึดมาได้ เพื่อให้พุ่งเข้าใส่ทหาร ที่ยืนตรึงกำลังอยู่ตรงบริเวณนั้น ณ นาทีนี้ ความวุ่นวายยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริเวณแยกราชปรารภ และบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

กรุงเทพ วุ่นหนัก เที่ยงวันสงกรานต์


11.45 นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงข่าวเป็นครั้งแรกของวันที่ 13 เมษายน พร้อมด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทั้งทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ และ ตำรวจ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ มานั่งร่วมแถลงข่าวด้วยแล้ว หลังจากที่การแถลงข่าวเมื่อคืนนี้ตอนเที่ยงคืน ไม่ปรากฎตัวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรี ยังพยายามให้ความมั่นใจกับพี่น้องชาวไทยว่าจะรักษาความสงบเรียบร้อยไว้ได้ และได้สรุปตัวเลขล่าสุดว่าในเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่บริเวณแยกดินแดงในตอนเช้าวันนี้ มีทหารบาดเจ็บ 23 คน และ มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บ 47 คน โดยมีทหารถูกกระสุนปืน 4 นาย และย้ำว่าไม่มีผู้ใดเสียชีวิต

ย้ำด้วยเช่นกันว่า ทหาร ตำรวจ และ ข้าราชการพลเรือนเป็นมิตรกับประชาชน และขอให้ประชาชนให้ขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปฏิบัติการโดยสะดวก

น่าสังเกตว่าเมื่อวานนี้ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ต้องตอกย้ำในแนวทางเดียวกันว่าขอให้ทหาร ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ และถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นผมขอรับผิดชอบ

ใน ห้วงเวลานี้ เกิดคำถามมากมายว่าเกิดอะไรขึ้น กับ ทหาร และ ตำรวจ ที่ต้องร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ เกิดคำถามว่าทำไมการปฏิบัติการจึงทำกันไม่เต็มที่
และล่าสุด ณ นาทีนี้ 12.00 มีรายงานว่ามีการเผารถเมล์ ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงแล้ว

ตอนนี้ต้องติดตามกันนาที ต่อนาทีค่ะ

6.4.09

อันวาร์ อิบราฮิม ลุ้นเลือกตั้งซ่อมในมาเลเซีย


ที่มาเลเซีย วันนี้กำลังมีการเลือกตั้งซ่อมที่รัฐเคดาห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย
เรียกได้ว่าเป็นการเลือกตั้งซ่อม สดๆ ร้อนๆ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 6 นาจิบ ราซัก เริ่มเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 4 วันเท่านั้น

อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรค PKR หรือชื่อเต็มว่า Parti Keadilan Rakyat หมายมั่นว่าจะต้องได้ที่นั่ง สส ในสภาเพิ่มให้ได้ จากที่ตอนนี้มีอยู่แล้วประมาณ 1 ใน 3 หรือ 82 ที่นั่ง จากจำนวน สส ในสภาทั้งหมด 222 ที่นั่ง โดยพรรคร่วมรัฐบาลมีโดยรวมอยู่ 140 เสียงแล้ว
ถ้าครั้งนี้พรรค PKR ได้อีกหนึ่งก็จะได้เพิ่มเป็น 83 เสียง และน่าจะช่วยเพิ่มความมั่นอกมั่นใจให้กับอันวาร์ อิบราฮิมได้มากขึ้น

คุณอันวาร์ ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังว่าจะเอาชนะใจชาวมาเลเซีย ที่เบื่อหน่ายกับการทำงานแบบเก่าๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้แกนนำของพรรค Umno ได้ ในช่วงที่ดิฉันได้สัมภาษณ์คุณอันวาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณอันวาร์เชื่อว่านโยบายของพรรคฝ่ายค้านที่เห็นอกเห็นใจคนมาเลย์ และให้ความสำคัญกับทั้งชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย และ เชื้อสายมาเลย์ จะช่วยเพิ่มเสียงสนับสนุนให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านได้มากขึ้น

แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วท่าทีของคุณอันวาร์ ไม่ได้กร้าวเหมือนเมื่อตอนประกาศเมื่อปีที่แล้ว ว่าจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้
คราวนี้ดูเหมือนจะใจเย็น และ ดูราวจะอดทนรอเวลาได้มากขึ้น และเคลื่อนไหวแบบค่อยเป็นค่อยไป
คุณอันวาร์ผ่านการทดสอบมามาก โดยเฉพาะเมื่อต้องถูกสั่งจำคุกในปี 2541 และ 2542 ในข้อหาคอร์รัปชั่น และ sodomy หรือ วิปริตทางเพศ โดยเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการปล่อยตัวเมื่อปี 2547 หรือใช้เวลาอยู่ในเรือนจำนานถึง 6 ปี

ออกมาแล้วก็ไม่อยากพักผ่อน แต่คงจะอยากสานฝันความเป็นนักการเมืองให้ถึงที่สุด ถึงได้มาเป็นแกนนำสำคัญของฝ่ายค้านอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

พรุ่งนี้ก็จะได้ทราบข่าวว่าพรรคพีเคอาร์ กำลังโกยจำนวน สส เพิ่มขึ้นหรือไม่