18.11.08

The Personal is the Political


ฤา ภาพที่เห็นนี้จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว สำหรับครอบครัวของพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร

เหตูผลก็คาดกันไปหลายเรื่องค่ะ ที่คุณหญิงพจมาน และคุณทักษิณ หย่ากันที่สถานกงศุลไทยในฮ่องกงเมื่อวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน ทั้งว่าเป็นเรื่องการเมือง การปกป้องทรัพย์สิน หรือ ว่าหย่ากันจริงๆ เพื่อที่คุณหญิงจะได้กลับมาต่อสู้คดีต่อในเมืองไทย

สุดจะคาดเดานะคะ แต่ก็คงจะใช้เวลาไม่นานเกินไปก็คงพอจะเดาทางกันออก

งานนี้ The personal is the political จริงๆ ตามปรัชญาของนักสตรีนิยม ที่ว่าเรื่องในบ้าน เรื่องส่วนตัวนั้น แท้จริงแล้วเป็นเรื่องการเมือง เรื่องของสาธารณะ

คำกล่าวนี้ใช้ได้อย่างแม่นเหมาะ สำหรับครอบครัวคุณทักษิณ ณ วินาทีนี้ เพราะว่าเรื่องราวส่วนตัว การตัดสินใจหย่าร้างกัน ได้กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองไปแล้ว

คำกล่าวนี้ วิเคราะห์กันถึงการแบ่งงานกัน ความสัมพันธ์ทางเพศภาวะ (gender relations) รวมถึงความสัมพันธ์เชิงอำนาจ (power relations) ในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย หรือ คนคู่ใดๆก็ตาม ที่การต่อรองในเรื่องส่วนตัวนั้นล้วนเกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งสิ้น

จะว่าไปพอมีคนสองคน ก็ต้องเกิดการต่อรองกัน จนถูกมองว่ากลายเป็นเรื่องการเมือง ขั้นแรกก็ในครอบครัวนี่แหละค่ะ

กรณีคุณทักษิณ กับคุณหญิงพจมาน ดูเหมือนตอนนี้ด้านหนึ่งสังคมจะตีความตามบรรทัดฐานของสังคมไทย (หรืออาจจะเป็นสังคมส่วนใหญ่ในโลก) ที่ว่า ผู้ชายจะให้ความสำคัญกับพื้นที่สาธารณะหรือการงาน อาชีพ นอกบ้าน ขณะที่ผู้หญิงจะดูแลครอบครัว และลูกเป็นอันดับหนึ่ง (ถึงแม้ขณะเดียวกันผู้หญิงก็ต้องทำงานไปพร้อมๆกันด้วย) ฉะนั้นงานนี้คุณหญิงอ้อ ก็ถูกมองว่าจะต้องตัดใจสละชีวิตแต่งงานกับอดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้มีโอกาสกลับมาต่อสู้คดีในไทย

แต่อีกด้านหนึ่งที่คงจะมองข้ามไม่ได้ก็คือ การแยกกันทางกฎหมายนั้น จะส่งผลอย่างไรต่อการดำเนินการทางการเมืองของคุณทักษิณ หรือ ครอบครัวชินวัตร ต่อไปในอนาคต

และตัวคุณหญิงเอง จะรามือ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือ การบริหารภายในพรรค จริงหรือไม่

หรือจะกลายเป็นตัวแทนทางการเมืองของสามี ก็คงจะเป็นคุณทักษิณและคุณหญิงพจมานเท่านั้นที่จะล่วงรู้

4 comments:

Anonymous said...

ชอบคุณณัฏฐาจับเอาทฤษฎีเพศมาซอยย่อยวิเคราะห์การเมืองที่โยงใยเรื่องเพศ ครอบครัว หรือค่านิยมสังคมให้ได้เห็นได้เข้าใจ แต่ดูยั้งๆ มือไปหน่อยนะคะ น่าจะซอยย่อยหรือชำแหละความเชื่อมโยงประเด็นต่างๆ ให้ได้เห็นภาพมากกว่านี้ ดูจะห่วงความเป็นกลางของสื่อ (จนเกร็งไปรึเปล่า??) อยากอ่านจริงๆ นะเนี่ย !!

Y.Handkerchief

Anonymous said...

-ช่วยแต่งหน้าบางๆเหมือนเดิม ทรงผมเดิมดีกว่านะคับ ดูมา3-4วันแต่งหน้าเข้มจัง ดูเหมือนหมีแพนด้าเลย แบบเดิมผมว่าดูดีกว่ามากมาก
-ทีพีบีเอสเสนอข่าวเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเดิมนะ ทางที่ดีอยากเสนอให้ย้ายที่ทำงานของสถานีได้ไหม มันอดคิดอคติไม่ได้

Anonymous said...

คุณเป็นผู้ชิ๊งหรือผู้ชาย ถนัดเรื่องแต่งหน้าจังเยยยยย หรืออยากแต่งเองแต่แม่ให้ให้ฮ๊า

Anonymous said...

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับบทความ